If clause หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินในชื่อของ Conditional sentences (Conditional clause) ใครที่ชอบการตั้งเงื่อนไข ต้องทำความรู้จักกับเจ้านี่ไว้เลยนะครับ
เพราะเจ้านี้เป็นประโยคที่บอกถึงเงื่อนไขของผู้พูด หรือเหตุการณ์สมมติ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
· ส่วนของ main clause คือ ส่วนของประโยคหลัก
เป็นประโยคที่แสดงผลของเงื่อนไขนั้นๆ
· ส่วนของ if clause คือ ส่วนของเงื่อนไข
หรือส่วนที่เป็นเหตุการณ์สมมติ
If clause สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ หลักๆ ดังนี้
1. Type I (real conditional)
เป็น
ประโยคแสดงเงื่อนไขที่สามารถเป็นความจริง หรือแสดงเงื่อนไขที่เป็นไปได้ ในปัจจุบัน
หรืออนาคต
if + present simple, … will + infinitive
ใช้พูดถึงเหตุการณ์เฉพาะซึ่งอาจเป็นไปได้ หรือผู้พูดคิดว่าจะเกิดขึ้น เช่น
ใช้พูดถึงเหตุการณ์เฉพาะซึ่งอาจเป็นไปได้ หรือผู้พูดคิดว่าจะเกิดขึ้น เช่น
If you read,
you will pass
the exam.
If I have time,
I will help you.
ถ้าผมมีเวลาพอ ผมจะช่วยคุณเอง
If Bob tidies up the
kitchen, Anita will clean the toilet.
ถ้าบ๊อบจัดครัวให้เป็นระเบียบ
แอนนิต้าก็จะทำความสะอาดห้องน้ำ
She‘ll miss the bus if she doesn’t leave soon.
เธอจะไม่ทันรถเมล์ถ้าไม่ออกจากบ้านตอนนี้
She‘ll miss the bus if she doesn’t leave soon.
เธอจะไม่ทันรถเมล์ถ้าไม่ออกจากบ้านตอนนี้
She‘ll be late if the train is delayed.
เธอจะไปสายถ้ารถไฟมาช้า
2. Type II (unreal condition – present)
เป็นประโยคแสดงเงื่อนไขที่ไม่สามารถเป็นความจริง
หรือเงื่อนไขที่ไม่สามารถเป็นไปได้ (อาจจะใช้เป็นการแนะนำ)
First conditional ใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคาดคะเนว่าจะเกิดขึ้น
แต่
Second conditional จะใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น
เช่น
First conditional: If she studies harder, she’ll
pass the exam.
ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอจะสอบผ่าน
(คิดว่าเป็นไปได้)
Second conditional: If she studied harder, she
would pass the exam.
ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอคงสอบผ่าน
(แต่ผู้พูดไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ คือ คิดว่าเธอคงไม่ตั้งใจมากขึ้น
และเธอคงสอบไม่ผ่าน)
ประโยคแบบ second
conditional นี้ใช้ If + past simple คู่กับ would
+ infinitive
if + past simple, …would + infinitive
(สังเกต ว่าอนุประโยคที่ต่อหลัง if
ถ้าคำกิริยาเป็น verb to be จะใช้ were
ได้กับประธานทุกตัว เช่น If I were you… ถ้าฉันเป็นเธอ…
แต่จะใช้ was ตรงตามประธานก็ได้)
ใช้พูดถึงความใฝ่ฝันว่าอยากให้เกิดขึ้นในอนาคตแต่อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
เช่น
If I were rich, my life would change
completely.
ถ้าผมรวย ชีวิตของผมจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์ (I เป็นประธานเอกพจน์ตัวเดียวที่ต้องใช้ were ในประโยค If clause)
If I owned a lonely island, I would build a huge house by the beach.
ถ้าฉันเป็นเจ้าของเกาะส่วนตัวสักแห่ง
ฉันจะสร้างบ้านหลังโตๆใกล้กับชายหาด
If I met the Queen of England, I would say hello. ถ้าได้พบราชีนีอังกฤษฉันจะกล่าวสวัสดี
If I were you, I wouldn’t go out with that man. ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ไปเที่ยวกับเขา
If I met the Queen of England, I would say hello. ถ้าได้พบราชีนีอังกฤษฉันจะกล่าวสวัสดี
ใช้พูดถึงเหตการณ์ในปัจจุบันที่เป็นไปไม่ได้เลย
ไม่จริงเลย เช่น
If I had his number, I would call him. ถ้ามีเบอร์เขาฉันจะโทรหาเขา (แต่จริงๆฉันไม่มีเบอร์เขา)
If I were you, I wouldn’t go out with that man. ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ไปเที่ยวกับเขา
If I were you, I would go to the doctor.
ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไปหาหมอ (ในความเป็นจริงเราไม่สามารถเป็นคนอื่นได้ ประโยคนี้จึงเหมือนเป็นการแนะนำมากกว่า)
ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไปหาหมอ (ในความเป็นจริงเราไม่สามารถเป็นคนอื่นได้ ประโยคนี้จึงเหมือนเป็นการแนะนำมากกว่า)
* ประโยค second
conditional ต่างกับ first conditional ตรงที่แบบนี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก
เช่น
Second conditional: If I had enough money I would
buy a house with twenty bedrooms and a swimming pool.
ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อบ้านที่มีห้องยี่สิบห้องกับสระว่ายน้ำ
(ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นแค่ฝัน)
First conditional: If I have enough money, I’ll
buy some new shoes.
ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อรองเท้าใหม่
(มีความเป็นไปได้มากกว่ามาก)
3. Type III (unreal condition – past)
เป็นประโยคแสดงเงื่อนไขในอดีต
ที่ไม่สามารถเป็นจริงได้เลยในปัจจุบัน
และเงื่อนไขนั้นตรงข้ามกันกับความจริงที่เกิดขึ้นในอดีตด้วย
if + past perfect, …would + have + past
participle เช่น
If it had been a
home game, our team would have won the
match.
ถ้าเราได้แข่งในบ้านของเรา
ทีมของพวกเราต้องชนะแน่ๆ (แต่ความเป็นจริงทีมของพวกเราแพ้ไปแล้ว)
They would not have gone
to the theater by car if the weather had been better.
พวกเขาจะไม่ขับรถไปโรงละครแน่ๆ
หากอากาศดีขึ้นกว่านี้
If John had learned more words, he would have written a good report.
ถ้าจอห์นเรียนรู้คำศัพท์มากกว่านี้
เขาจะเขียนรายงานได้ดีขึ้น (ตอนนี้เขาเขียนรายงานได้ไม่ดี)
She wouldn’t have been tired if she had gone to
bed earlier.
เธอจะไม่เพลียถ้าเข้านอนเร็วกว่านี้
If we had taken a taxi, we wouldn’t have missed
the plane.
ถ้าเราขึ้นแท็กซี่มาเราคงไม่ตกเครื่องบิน
อย่างที่ได้บอกในข้างต้นที่ว่า ประโยค If clause ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนของ main clause และส่วนของ if clause โดยทั้งสองส่วนนี้สามารถสลับตำแหน่งกันได้
แต่ถ้าส่วนของ if clause ขึ้นก่อน
จะต้องมีเครื่องหมายคอมมา (,) คั่นอยู่ตรงกลาง แต่ถ้าเอาส่วนของ main clause ขึ้นก่อน
ก็ไม่ต้องมีเครื่องหมายคอมมา (,) เรื่องของเครื่องหมายคอมมาอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเรื่องของการพูด
แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่เป็นเรื่องของการเขียน เราจะลืมเขียนไม่ได้นะครับ
(ตัวตัดคะแนนเลยแหละ)
เรามาดูคลิปเพื่อความเข้าใจง่ายๆกันเลยนะครับ
สำหรับภาษาไทยเราใช้ประโยคเงื่อนไขกันบ่อยๆอยู่แล้ว
ดังนั้นต่อจากนี้ไปถ้าเราจะตั้งเงื่อนไขกับใครลองพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษสิครับ
แล้วจะติดใจ
แบบฝึกหัด If-CLAUSES
1. ………….I known you were coming, I would
have met you at the airport.
a. Should b. If
a. Should b. If
c.
Had d. Were
2. If you…………me, I might have forgotten.
a. hadn’t reminded b. would remind
a. hadn’t reminded b. would remind
c.
should d. were to
3. If you………….him, what will you do?
a. had seen b. saw
a. had seen b. saw
c. were to
see d.
see
4. …………I written her a letter, she would
have known about it.
a. Should b. Had
a. Should b. Had
c.
If
d. Were to
5. I’ll spoil my dinner, …………I have cake
for afternoon tea.
a. had b. should
a. had b. should
c.
were
d. will have
6. …………….it rain, I won’t go.
a. Would b. Should
a. Would b. Should
c.
Had
d. If
7. I will need to buy some gas if the
tank………….empty.
a. would have been b. was
a. would have been b. was
c.
were
d. is
8. I……………do it if I were you.
a. am to b. will
a. am to b. will
c. wouldn’t d.
had
9. ………….it rained yesterday, they
wouldn’t have gone.
a. Had b. Would
a. Had b. Would
c.
If
d. Were
10. If I had won the lottery, I…………….rich.
a. am b. were
a. am b. were
c. will be d.
would have been
เฉลย
1. c.
Had เป็นกฎ If-clause
ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form
2. a. hadn't reminded เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3
3. d. see เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1
4. b. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form
5. b.
should เป็นการใช้ should
แทน if
6. b. Should เป็นการใช้ should แทน if
7. d. is เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1
8. c. wouldn't เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 2
9. a. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form
10. d. would have been เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3
ทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.e-grammar.org/if-clauses/test1-exercise1/
http://www.xn--12cl1ciib7arwc9bh2c2cib4vja7d6c.com/2014/08/if_22.html
2. a. hadn't reminded เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3
3. d. see เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1
4. b. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form
5. b.
should เป็นการใช้ should
แทน if 6. b. Should เป็นการใช้ should แทน if
7. d. is เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1
8. c. wouldn't เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 2
9. a. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form
10. d. would have been เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3
ทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.e-grammar.org/if-clauses/test1-exercise1/
http://www.xn--12cl1ciib7arwc9bh2c2cib4vja7d6c.com/2014/08/if_22.html


